ผู้เขียน:
William Ramirez
วันที่สร้าง:
15 กันยายน 2021
วันที่อัปเดต:
21 มิถุนายน 2024
![รักษาอาการจุกเสียดแน่นท้องด้วย“เคอร์คูมินอยด์” : Rama Square ช่วง สาระ-ปัน-ยา 25 ต.ค.61(3/3)](https://i.ytimg.com/vi/F3XMD4dBR2g/hqdefault.jpg)
เนื้อหา
ยอมรับ: อาการจุกเสียดที่ด้านข้างของคุณนั้นไม่น่าพอใจ และยังจำกัดความสามารถในการทำงานของคุณอีกด้วย นี่คือวิธีการรักษาอาการปวดที่มากเกินไป
ขั้นตอน
1 ค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของความเจ็บปวด คุณจะไม่สามารถระบุจุดเจ็บได้อย่างแม่นยำราวกับว่าเจ็บขาหรือคอ แต่คุณสามารถรู้สึกว่ามันเจ็บด้านไหนมากกว่ากัน
2 นอนหงายและเก็บน้ำไว้ในฝ่ามือ ฉีดน้ำในบริเวณที่มีอาการจุกเสียดหรือวางผ้าขนหนูร้อนไว้บริเวณนั้น
3 เช็ดบริเวณที่เป็นกังวลด้วยน้ำจนกว่าอาการจุกเสียดจะหายไป
4 รออย่างน้อย 10 นาทีก่อนเริ่มงานหรือออกกำลังกาย
5 อาบน้ำหลังจากนั้นสักครู่ถ้าเป็นไปได้ หากวิธีนี้ไม่ได้ผล ให้ไปพบแพทย์ อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่จริงจังกว่านี้
เคล็ดลับ
- หนึ่งในสาเหตุหลักของอาการจุกเสียดคือการคายน้ำ จากการศึกษาพบว่ากว่า 90% ของคนที่ออกกำลังกายในโรงยิมมีภาวะขาดน้ำ แม้ว่าคุณจะไม่กระหายน้ำ แต่อย่าลืมดื่มให้เพียงพอก่อนออกกำลังกาย
- การใช้น้ำมากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
- ลองยืดกล้ามเนื้อสักสองสามนาที หากคุณเป็นตะคริวที่ด้านขวาของท้อง ให้โน้มตัวไปทางซ้าย จากนั้นยกมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อเหยียดด้านขวาออก มันได้ผล!
- พยายามหายใจเข้าลึกๆ ขณะยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและหยุดอาการจุกเสียดเร็วขึ้น
- การดื่มน้ำเกลือก็ช่วยได้เช่นกัน ฟังดูแปลก แต่น้ำเกลือมีคุณสมบัติในการรักษาอาการจุกเสียด!
- กินให้น้อยลงก่อนออกกำลังกาย เจลให้พลังงานจะให้พลังงานและแคลอรีที่คุณต้องการโดยไม่ต้องกระเด้งไปมาในท้องของคุณ
- คุณยังสามารถบรรเทาอาการปวดด้วยแผ่นประคบร้อน
- หากคุณออกกำลังกายต่อไปโดยไม่สนใจอาการโคลิค อาการปวดอาจเคลื่อนไปที่บริเวณระหว่างไหล่ซ้ายและหน้าอกด้านซ้าย
- พยายามดื่มน้ำก่อนเริ่มและระหว่างออกกำลังกาย ในบางกรณี การดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนออกกำลังกายจริง ๆ แล้วอาจทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้ แต่ให้ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่างวัน ไม่ควรให้ถูกก่อนออกกำลังกาย
คำเตือน
- หากความเจ็บปวดยังคงอยู่หลังจากผ่านไปสองสามนาทีหรือแย่ลง ให้ไปพบแพทย์