เนื้อหา

• ขั้นตอน
• คำแนะนำ
• คำเตือน

หลายองค์กรอ้างถึงการอ้างอิงในรูปแบบ American Psychological Association (APA) โดยเฉพาะสำหรับเอกสารการวิจัย ไม่ว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับรูปแบบ Modern Language Association (MLA) จะมีความแตกต่างเล็กน้อย แต่สำคัญมากในการนำเสนอ เรียนรู้พื้นฐานของการอ้างอิงรูปแบบ APA เพื่อทำให้กระบวนการเขียนงานวิจัยที่กำลังจะมาถึงของคุณง่ายขึ้น

ขั้นตอน

วิธีที่ 1 จาก 2: ความเข้าใจพื้นฐาน

1. 

   การจัดตำแหน่งที่ถูกต้อง เมื่อคุณสร้างหน้า "การอ้างอิง" ในตอนท้ายของเรียงความคุณจะต้องแสดงรายการการอ้างอิงเพื่อให้ระยะขอบเท่ากันและบรรทัดที่เหลือของการอ้างอิงต้องเป็นเซลล์เดียวที่สัมพันธ์กับพวกเขา
   • ไม่มีการเว้นบรรทัดระหว่างการอ้างอิงในบรรณานุกรม คุณสามารถแยกแยะเครื่องหมายคำพูดที่แตกต่างกันตามการจัดแนวซ้ายของบรรทัดแรก
   • อย่าใส่เครื่องหมายคำพูดใช้การเยื้องเพื่อแยกความแตกต่าง

2. 

   
   
   จัดเรียงรายการการอ้างอิงตามตัวอักษร หน้าแค็ตตาล็อกควรเรียงตามตัวอักษรตามนามสกุลของผู้แต่ง สำหรับการอ้างอิงงานที่เขียนโดยผู้เขียนมากกว่าหนึ่งคนไม่จำเป็นต้องเรียงชื่อผู้แต่งตามตัวอักษร แต่เรียงตามลำดับที่ชื่อผู้แต่งปรากฏในผลงาน

3. 

   
   
   ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ที่เหมาะสม ตลอดการอ้างอิงชื่อผู้แต่งชื่อหนังสือและผลงานต้องอ้างอิงโดยตรงและเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ก่อน

4. 

   อ้างชื่อผู้แต่งให้ถูกต้อง ในรูปแบบ APA ชื่อผู้แต่งทั้งหมดจะถูกยกมาตามลำดับนามสกุลก่อนชื่อ สำหรับคำพูดของผู้เขียนคุณสามารถระบุทั้งชื่อและนามสกุล สำหรับการอ้างอิงผู้แต่งหลายคนให้เขียนเฉพาะอักษรตัวแรกและตัวสุดท้ายของชื่อ สำหรับการอ้างอิงผลงานที่เกี่ยวข้องกับผู้แต่งมากกว่าสามคนจะต้องระบุชื่อผู้แต่งทั้งหมด แต่อาจง่ายกว่าที่จะแสดงรายการในรูปแบบต่อไปนี้: (ผู้แต่ง 1 และผู้แต่ง อื่น ๆ ).

5. 

   
   
   อ้างชื่อที่แน่นอน สำหรับการอ้างอิงผลงานจำนวนมากเช่นหนังสือหนังสือพิมพ์นิตยสารจำเป็นต้องทำให้ชื่องานเป็นตัวเอียงและอาจขีดเส้นใต้ชื่อผลงาน สำหรับการอ้างถึงส่วนหนึ่งของบทความหรือบทของบทชื่อเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเอียง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำสำคัญในชื่อเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ โฆษณา

วิธีที่ 2 จาก 2: CreateAction

1. 

   ราคาหนังสือ ในการอ้างอิงหนังสืออย่างถูกต้องจำเป็นต้องระบุชื่อผู้แต่ง (ระบุนามสกุลก่อน) วันที่ตีพิมพ์ชื่อผลงานสถานที่ตีพิมพ์และผู้จัดพิมพ์ ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลใด ๆ ในหนังสือไม่จำเป็นต้องอ้าง
   • ตัวอย่างเช่น Jones, Anna (2001) จิตวิทยาการเริ่มต้น นิวยอร์กและลอนดอน การแปลสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก: ผู้แต่งโจนส์แอนนา (2544) ต้นกำเนิดทางจิตวิทยา นิวยอร์กและลอนดอน สิ่งพิมพ์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

2. 

   อ้างถึงบทความ รวบรวมข้อมูลและจัดเรียงตามลำดับ: ชื่อผู้แต่งวันที่ตีพิมพ์ชื่อบทความชื่อวารสารหรือวารสารจำนวนเล่มและจำนวนหน้าที่คุณกำลังอ้างอิง
   • ตัวอย่าง: Gill, Smith, Percy (8 มิถุนายน 2535) ความกังวลที่เพิ่มขึ้นในการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่น จิตวิทยารายไตรมาส, 21, 153-157 แปลโดย: ผู้แต่ง Gill Percy Smith (8 มิถุนายน 2535) เพิ่มความกังวลในการใช้ยาในทางที่ผิดในวัยรุ่น สิ่งพิมพ์จิตวิทยารายไตรมาส

3. 

   อ้างถึงเว็บไซต์ การอ้างถึงหน้าเว็บอาจเป็นเรื่องยากขึ้นเนื่องจากมักไม่มีข้อมูลที่จำเป็นในการอ้างอิงอย่างถูกต้องเช่นผู้แต่งหรือปีที่พิมพ์ ในการอ้างอิงหน้าเว็บเพียงแค่ใส่ชื่อผู้แต่งปีที่พิมพ์ชื่อและ URL ของเว็บไซต์
   • ตัวอย่าง: Alexander, 2012. Tips for Healthy Relationships. แปลโดย: ผู้แต่ง Alexander, 2012 เคล็ดลับเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ http://www.psychologywebsitehere.com/tipsforhealthyrelationships

4. 

   ใช้เครื่องหมายคำพูดในข้อความ รูปแบบ APA ต้องการการอ้างอิงในข้อความเพื่ออ้างอิงแหล่งที่มาของบทความ ข้อความที่ตัดตอนมาต้องอยู่ท้ายประโยคก่อนช่วงเวลาหนึ่งและรวมชื่อผู้แต่งและปีที่พิมพ์ไว้ในวงเล็บ ในกรณีที่ไม่มีข้อมูลสำหรับผู้แต่งและปีที่พิมพ์อาจใช้ชื่อผลงานที่เป็นปัญหา
   • หากไม่ได้ระบุชื่อผู้แต่งในการอ้างอิงให้ลงท้ายประโยคด้วยชื่อผู้แต่งและปีที่พิมพ์ ตัวอย่างเช่น: (Jones, 2001)
   • หากคุณต้องการใส่ชื่อผู้แต่งในใบเสนอราคาให้ใส่ปีที่พิมพ์ในวงเล็บถัดจากชื่อผู้แต่งทันที ตัวอย่างเช่น:“ Jones (2001) ก็มีทฤษฎีที่น่าสนใจเช่นกันเมื่อเธอกล่าวว่า ... ” (ผู้เขียน Jones (2001) ยังให้ทฤษฎีที่น่าสนใจเมื่อเธอกล่าวว่า…)
   โฆษณา

คำแนะนำ

• สไตล์ APA กลายเป็นเรื่องง่ายที่จะปฏิบัติ
• สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการอ้างอิงเฉพาะชั้นเรียนจากครู (เช่นการอ้างถึงการบรรยายในชั้นเรียน)

คำเตือน

• โปรดจำไว้ว่า WikiHow ใช้เครื่องหมายคำพูดในรูปแบบ MLA ไม่ใช่รูปแบบ APA