เนื้อหา

• ขั้นตอน
• คำแนะนำ

การปกป้องสิ่งแวดล้อมและการนำกลับมาใช้ใหม่นั้นง่ายกว่าที่คุณคิด! คุณสามารถมีส่วนร่วมได้โดยเปลี่ยนนิสัยประจำวันของคุณ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมลดการใช้พลังงานและน้ำเปลี่ยนพฤติกรรมการกินท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและทำให้พื้นที่ในบ้านและสวนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มากกว่ากับสิ่งแวดล้อมเมื่อวิถีชีวิตของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นคุณยังสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ให้ความรู้กับชุมชนและส่งเสริมให้พวกเขาทำเช่นเดียวกัน

ขั้นตอน

วิธีที่ 1 จาก 7: เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณ

1. 

   ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน หากคุณไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ ให้ปิดเครื่อง อุปกรณ์ไฟฟ้า ได้แก่ โคมไฟวิทยุคอมพิวเตอร์เครื่องพิมพ์ ฯลฯ
   • ใช้ตัวตั้งเวลาปิดไฟตามเวลาที่กำหนดในแต่ละวัน ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแห่งขายผลิตภัณฑ์จับเวลา สามารถติดตั้ง Timer เข้ากับปลั๊กเพื่อควบคุมพลังงานที่ส่งไปยังหลอดไฟ
   • คุณยังสามารถหาเครื่องทำความร้อนไฟฟ้าและพัดลมพร้อมตัวจับเวลา อุปกรณ์นี้จะปิดเครื่องทำความร้อนและพัดลมไฟฟ้าโดยอัตโนมัติเมื่อมีอากาศร้อนหรือเย็นในเวลากลางคืน ตัวจับเวลาส่วนใหญ่จะปิดโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

2. 

   
   
   ถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบเมื่อเป็นไปได้ การเก็บปลั๊กไฟไว้ในตำแหน่งเช่นที่ชาร์จแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์หรือเครื่องปิ้งขนมปังจะใช้พลังงาน "phantom" แม้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะปิดอยู่ แต่อุปกรณ์ก็ยังคงใช้พลังงานเนื่องจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุปกรณ์ยังคงใช้ไฟฟ้าอยู่ ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งานภายใน 24 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้น)
   • ใช้ปลั๊กไฟเพื่อปิดอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันด้วยสวิตช์เพียงสวิตช์เดียว คุณสามารถเสียบอุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณใช้ในพื้นที่บางแห่งเช่นคอมพิวเตอร์เข้ากับฮับ เมื่อคุณทำเสร็จแล้วเพียงแค่กดสวิตช์เพื่อตัดการเชื่อมต่อพลังงานจากสวิตช์
   • วัดปริมาณพลังงานที่อุปกรณ์ของคุณใช้หรือค้นหาการใช้พลังงานตามปกติ ในสหรัฐอเมริกาคุณสามารถวัดกระแสไฟฟ้าด้วยตัวเองด้วยเครื่องมือ Kill-a-Watt คุณเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่าน Kill-a-Watt และเครื่องมือจะวัดการใช้พลังงาน Kill-a-Watt ยังสามารถบอกคุณได้ว่าอุปกรณ์ยังคงใช้พลังงานอยู่แม้จะปิดอยู่

3. 

   
   
   เปลี่ยนเครื่องอบผ้าด้วยเครื่องอบผ้าแบบวินเทจ วิธีนี้จะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นแถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เครื่องอบผ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในครัวเรือนรองจากตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ หากคุณใช้เครื่องอบผ้าให้ทำความสะอาดช่องระบายอากาศเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพทางไฟฟ้าที่ดีที่สุด
   • เมื่อใช้เครื่องซักผ้าตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีผ้าเพียงพอ อย่าใส่สิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นลงในเครื่องซักผ้าเพราะจะทำให้น้ำเสีย คุณควรรอให้เสื้อผ้าสกปรกเพียงพอเพื่อประหยัดค่าน้ำค่าไฟ
   • หากคุณต้องการคุณยังสามารถซักผ้าด้วยมือหรือซื้อเครื่องซักผ้าประหยัดน้ำและประหยัดพลังงาน

4. 

   
   
   ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างประหยัดหรือใช้งาน แอร์กินไฟมาก ใช้ลมธรรมชาติหรือพัดลมเพื่อระบายความร้อนให้มากที่สุด
   • หากคุณใช้เครื่องปรับอากาศคุณควรปล่อยให้เครื่องปรับอากาศต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น การวางเครื่องปรับอากาศให้ต่ำจะใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเท่านั้นและจะไม่ทำให้เครื่องเย็นเร็วขึ้น

5. 

   ปิดประตูเครื่องปรับอากาศในบ้านของคุณ หากคุณไม่ได้ใช้ห้องบางห้องในอาคารโปรดปิดประตูและประตูเครื่องปรับอากาศทั้งหมดในห้องเหล่านี้ การทำเช่นนี้บ่อยๆจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานไปกับการทำความร้อนหรือการทำความเย็นในช่องว่าง

6. 

   อย่าใช้เครื่องออกกำลังกาย แทนที่จะใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายให้ใช้จักรยานจริง (หรือ unicycle) เดินไปยังสถานที่ใกล้บ้านหรือไปเดินเล่น การออกกำลังกายแบบคาลิสเทนิกวิดพื้นและการออกกำลังกายแบบไม่ใช้น้ำหนักก็มีผลเช่นกัน

7. 

   ใช้ผ้าห่มอุ่น ๆ หรือเสื้อกันหนาวในฤดูหนาว แต่งตัวให้อบอุ่นและลดอุณหภูมิเทอร์โมสตัทลงสองสามองศา หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาให้ตั้งตัวควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 20 ° C ในฤดูหนาวหรือต่ำกว่าในเวลากลางคืน แต่ละระดับจะเพิ่มขึ้นสำหรับการสูญเสียพลังงานเพิ่มเติม 6-8%

8. 

   ประหยัดน้ำ. ครอบครัวโดยเฉลี่ย 4 ครอบครัวในสหรัฐอเมริกาใช้น้ำ 1,514 ลิตรต่อวัน คุณควรเลือกอย่างมีสติเพื่อลดการใช้น้ำของคุณ
   • อาบน้ำอย่างรวดเร็วหรือเติมอ่างเต็มหนึ่งในสี่หรือสามส่วน
   • ปิดก๊อกน้ำเมื่อแปรงฟัน
   • ติดตั้งท่อประหยัดน้ำหรือเครื่องเติมอากาศฝักบัวประหยัดน้ำและโถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ
   • เรียกใช้เครื่องเมื่อเต็มเท่านั้น
   • ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าเมื่อผ้าเต็มเท่านั้น ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าถ้าเป็นไปได้
   • หากคุณล้างรถด้วยตัวเองให้จอดรถไว้ที่สนามหญ้าด้านหน้าใช้ถังและฟองน้ำทำความสะอาดและท่อน้ำในการล้างรถ ใช้ก๊อกน้ำเพื่อปิดน้ำเมื่อไม่ใช้งานหรือปิดน้ำหลังจากล้างแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าสบู่และผงซักฟอกอื่น ๆ จะลงท่อระบายน้ำ (ถ้ามี) ซึ่งนำไปสู่การปนเปื้อน
   • หากคุณมีสระว่ายน้ำคุณสามารถใช้ผ้าคลุมสระเพื่อลดการระเหยและป้องกันไม่ให้ใบไม้ตกลงไปในสระ
   • ออกแบบภูมิทัศน์ที่ทนแล้งและพิจารณาวิธีการทำสวนแบบซีริสเคป (แปลโดยประมาณว่าการออกแบบภูมิทัศน์ที่ยั่งยืนโดยใช้น้ำชลประทานน้อยที่สุด) บำรุงรักษาระบบให้น้ำกลางแจ้งและอย่ารดน้ำมากเกินความจำเป็น

9. 

   รีไซเคิลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้ถังคัดแยกขยะถ้ามี แยกแก้วโลหะกระดาษ ฯลฯ
   • ไปที่ศูนย์รีไซเคิลหากพื้นที่ของคุณไม่มีถังเก็บขยะหรือเมื่อคุณต้องการรีไซเคิลวัสดุที่ไม่ได้รับโดยบริการรีไซเคิล

10. 

    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่ใช้แล้วทิ้ง สิ่งที่คุณใช้ไม่กี่ครั้งและทิ้งไปแล้วใช้ทรัพยากรในการผลิต แต่สุดท้ายก็จมอยู่ในหลุมฝังกลบมานานหลายศตวรรษ
    • พกถ้วยหรือขวดน้ำเครื่องใช้และถุงช้อปปิ้งติดตัวไปด้วย เตรียมอาหารกลางวันปลอดขยะ
    • ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟแทนแบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้ง แบตเตอรี่ไม่เพียง แต่อยู่ในพื้นที่ฝังกลบเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถทำลายได้ด้วย กรดจากแบตเตอรี่สามารถซึมลงดินได้เช่นกัน
    • จัดการขยะอันตรายอย่างเหมาะสม ไม่ควรทิ้งวัสดุจำนวนมากรวมทั้งแบตเตอรี่หลอดไฟนีออนขยะอิเล็กทรอนิกส์ (เกือบทุกอย่างที่ใช้แบตเตอรี่หรือปลั๊กไฟ) ผงซักฟอกยาฆ่าแมลงน้ำมันรถและสีไม่ควรทิ้ง ทิ้งลงในหลุมฝังกลบหรือท่อระบายน้ำโดยตรง แต่ให้ติดต่อเมืองที่คุณอาศัยอยู่เพื่อหาเวลาในการกำจัดที่เหมาะสม

11. 

    ใช้กระดาษชำระในปริมาณที่คุณต้องการเท่านั้น อย่าใช้กระดาษชำระเพียงเมตรเดียวเพื่อเช็ดคราบเล็กน้อย หากระดาษในปริมาณที่เหมาะสม คุณไม่ควรใช้กระดาษชำระมากเกินไป แต่ให้เปลี่ยนด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดหรือฟองน้ำในการทำความสะอาดห้องครัว
    • สำหรับผลิตภัณฑ์กระดาษชำระที่คุณใช้ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล 80-100% โดยให้ความสำคัญกับกระดาษที่ทำจากกระดาษหลังการบริโภค
    • สำหรับผ้าเช็ดทำความสะอาดบ้านให้มองหาสำลีก้อนที่สามารถใช้ซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง ผ้าชนิดนี้มีราคาไม่แพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณซื้อเป็นจำนวนมากและสามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายร้อยครั้ง

12. 

    ใช้ผ้าอ้อมผ้า. รุ่นผ้าอ้อมผ้าได้ "อัพเกรด" มากเมื่อเทียบกับผ้าอ้อมที่มีหมุดและพลาสติกห่อหุ้ม เมื่อใช้ผ้าอ้อมผ้าคุณจะได้รับโชค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีทารกมากกว่าหนึ่งคน) ป้องกันไม่ให้สารเคมีอันตรายเข้าถึงผิวหนังของทารกและสิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำ สิทธิในการปกป้องโลก

13. 

    บล็อกสแปม หากคุณได้รับแคตตาล็อกบางรายการที่คุณไม่ได้ใช้งานโปรดโทรไปขอให้หยุดส่งแคตตาล็อกไปที่บ้านของคุณ
    • หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาให้ลงทะเบียนที่เว็บไซต์ออนไลน์ของ Opt Out Prescreen (https://www.optoutprescreen.com) เพื่อหยุดการเรี่ยไรบัตรเครดิตที่คุณไม่ต้องการเป็นเวลา 5 ปีหรือตลอดไป .

14. 

    สร้างจิตสำนึกให้กับผู้บริโภค ถามตัวเองเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งที่คุณซื้อต่อคนอื่นและสิ่งแวดล้อม
    • อย่าซื้อสิ่งที่คุณไม่ต้องการ นอกเหนือจากการประหยัดเงินแล้วคุณยังปกป้องทรัพยากรอันมีค่าเมื่อคุณไม่ซื้อเกิน
    • พิจารณาความทนทานเมื่อซื้อ สำหรับสินค้าที่คุณซื้อให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานใช้งานได้ยาวนาน ลองค้นหา "ซื้อสินค้าคงทนตลอดชีพ" ทางออนไลน์เพื่อปรึกษาฟอรัมหรือเคล็ดลับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์คงทน
    • ซื้อของใช้.การนำกลับมาใช้ใหม่เป็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่าสำหรับสิ่งของที่ใช้แล้วมากกว่าการทิ้งในหลุมฝังกลบและคุณยังประหยัดเงินอีกด้วย
    • ยืมหรือเช่าสิ่งของที่คุณใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือใช้เป็นครั้งคราว
    โฆษณา

วิธีที่ 2 จาก 7: เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

1. 

   กินเนื้อสัตว์และนมให้น้อยลง เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมใช้ทรัพยากรจำนวนมากและไม่ได้ผล การรับประทานอาหารมังสวิรัติ (โดยใช้ไข่และนมหรือรับประทานอาหารมังสวิรัติเต็มรูปแบบ) เป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่คุณสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงสุขภาพของคุณได้
   • ในสหรัฐอเมริกา Meatless Monday (แปลโดยประมาณว่า "Meatless Monday") เป็นแคมเปญด้านสาธารณสุขที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนให้ผู้คนไม่กินเนื้อสัตว์ในหนึ่งวันของสัปดาห์ ค้นหาหน้าออนไลน์ของแคมเปญเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับสูตรอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์

2. 

   หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่าดื่มกาแฟจาก K-cup K-cups เป็นถ้วยกาแฟบดสำหรับใช้ในเครื่องชงกาแฟของ Keurig ที่ใช้แล้วทิ้งและมักจะถูกทิ้ง (แม้ว่าจะสามารถรีไซเคิลได้หากผู้ใช้แยกออกเป็นกระดาษ , พลาสติกและโลหะ). แก้วกาแฟดังกล่าวถูกขายไปหลายพันล้านใบในปี 2014 และจำนวนแก้วที่ทิ้งแล้วสามารถจัดเรียงเป็นวงกลม 12 วงรอบโลก ควรชงกาแฟด้วยหม้อกาแฟธรรมดาหรือเครื่องกดแบบฝรั่งเศส
   • ใช้ถ้วยเซรามิกหรือถ้วยที่ใช้ซ้ำได้สำหรับกาแฟของคุณแทนถ้วยที่ใช้แล้วทิ้ง
   • ถ้าคุณชอบความสะดวกสบายในการมีกาแฟสำหรับคน ๆ เดียวและลงทุนซื้อเครื่อง Keurig ให้หาถ้วยที่ล้างทำความสะอาดได้แล้วเติมกาแฟ คุณจะยังประหยัดเงินและทรัพยากรเมื่อเทียบกับการซื้อเครื่องดื่มแต่ละแก้ว

3. 

   ซื้ออาหารท้องถิ่น. การขนส่งอาหารจากสถานที่ห่างไกลจะส่งผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม อาหารต้องขนส่งโดยรถบรรทุกรถไฟหรือเรือและยานพาหนะเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดขยะ การซื้ออาหารที่หาได้ในท้องถิ่นจากที่ที่คุณอาศัยอยู่จะช่วยขจัดหรือลดผลกระทบด้านลบของการจราจร
   • ในสหรัฐอเมริกาคุณสามารถไปที่ตลาดของเกษตรกรเพื่อหาผักหรือผลไม้ในท้องถิ่นหรือใช้บริการ CSA (การเกษตรที่สนับสนุนโดยชุมชน) เพื่อรับผลิตภัณฑ์เป็นประจำ สด.

4. 

   หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์มากเกินไป โดยปกติแล้วพลังงานที่ บริษัท อาหารใช้ในการสร้างบรรจุภัณฑ์จะเหมือนกับพลังงานที่ใช้ในการผลิตอาหาร อย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์แยกจากกันคุณควรซื้อสินค้าจำนวนมาก

5. 

   อย่าให้เสียอาหาร วางแผนมื้ออาหารของคุณเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ปรุงมากเกินกว่าที่คุณจะกินได้ เก็บของเหลือไว้ใช้ในมื้อถัดไป หากคุณมีอาหารเหลือมากเกินไปเช่นหลังงานปาร์ตี้ให้แบ่งปันกับเพื่อนของคุณ

6. 

   ใช้ขวดน้ำหลาย ๆ ครั้ง น้ำประปาส่วนใหญ่ในประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยหมายความว่าไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด ซื้อขวดแก้วหรือโลหะสำหรับใส่น้ำ
   • หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาคุณสามารถขอรายงานคุณภาพน้ำจากเมืองที่คุณอาศัยอยู่ได้เมื่อมีข้อกังวลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำ
   • โดยปกติคุณไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องกรองน้ำในขณะที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่เครื่องกรองน้ำขนาดเล็กจะช่วยเพิ่มรสชาติของน้ำดื่มของคุณ อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าน้ำยาปรับสภาพน้ำและระบบรีเวอร์สออสโมซิส (โดยทั่วไปเรียกว่า RO reverse osmosis) ใช้น้ำมากกว่าที่จ่าย
   • เติมน้ำประปาลงในโถและเก็บไว้ในตู้เย็น
   • หากน้ำประปามีไอสีขาวเมื่อเติมขวดครั้งแรกก็น่าจะเป็นฟอง ลองเทน้ำลงในแก้วหรือขวดสังเกตดูอีกครั้งหลังจากผ่านไป 1-2 นาทีเพื่อตรวจสอบว่ามีอาการอีกหรือไม่
   โฆษณา

วิธีที่ 3 จาก 7: เปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง

1. 

   เดินหรือปั่นจักรยานในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ หากระยะทางไม่ไกลเกินไปควรเดินหรือขี่จักรยาน การเดินทางระยะสั้นมักจะเป็นอันตรายต่อรถของคุณตลอดจนสิ่งแวดล้อมดังนั้นควรเปลี่ยนรถเป็นเท้าหรือจักรยานของคุณ
   • สวมหมวกนิรภัยและอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อปั่นจักรยาน
   • ติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการขนสินค้าบนจักรยานและไปซื้อของด้วยจักรยาน คุณสามารถจัดเก็บสิ่งของได้หลากหลายในกระเป๋าที่ยึดอานในรถพ่วงที่ติดกับจักรยานของคุณหรือในรถเข็นที่แข็งแรง

2. 

   จัดแบ่งรถไปทำงานหรือไปโรงเรียน วางแผนร่วมกับคนอื่น ๆ เพื่อทำงานร่วมกันหรือประสานงานกับผู้ปกครองในละแวกใกล้เคียงเพื่อแบ่งปันรถเพื่อพาลูกไปโรงเรียน
   • ในสหรัฐอเมริกายังอนุญาตให้คาร์พูลเข้าสู่ช่องทางเดินรถสำหรับผู้โดยสารสูง (เรียกว่า HOV - ช่องทางเดินรถสูง) ช่องทางนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและเงินที่ใช้ไปกับน้ำมันเบนซิน
   • หากคุณอาศัยอยู่ใกล้โรงเรียนที่บุตรหลานของคุณเข้าเรียนคุณอาจพิจารณาจัดกิจกรรม“ เดินไปโรงเรียน” ให้กับเด็ก ๆ ทุกคนในละแวกของคุณแทนที่จะขับรถไปโรงเรียน กลุ่มนักเรียนจะเดินไปโรงเรียนภายใต้การดูแลและการดูแลของผู้ปกครอง ผู้ปกครองในละแวกนั้นสามารถผลัดกันเป็นผู้นำสหภาพนักศึกษาได้

3. 

   ใช้ขนส่งสาธารณะ. หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีรถประจำทางรถไฟหรือรถไฟใต้ดินให้ใช้วิธีการเหล่านี้เพื่อไปที่ทำงานโรงเรียนหรือสถานที่อื่น ๆ การลดการเดินทางโดยรถยนต์จะช่วยลดความแออัดบนท้องถนนและยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง
   • ระบบรถโดยสารหลายแห่งในเมืองใหญ่ ๆ ของสหรัฐฯใช้รถโดยสารไฮบริดดีเซล - ไฟฟ้าซึ่งจะช่วยลดการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายได้มากขึ้น

4. 

   วางแผนสิ่งที่คุณต้องทำและไปครั้งเดียว เพื่อให้การเดินทางของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นคุณควรระบุสถานที่ที่คุณต้องไปและไปในทริปเดียว เดินทางในเวลาเดียวกันเพื่อลดการเดินทางและตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ขับรถเกินระยะทางสองสามครั้ง
   • อย่าลืมโทรแจ้งล่วงหน้าหรือตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าคุณจะมาถึงในเวลาทำการและคุณจะได้รับสิ่งที่คุณต้องการ นัดหมายและทำการสั่งซื้อทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์

5. 

   ทำงานจากระยะไกลหรือที่บ้านหากอนุญาตให้ทำงาน การทำงานระยะไกลหนึ่งวันต่อสัปดาห์สามารถลดการเดินทางของคุณได้ 20%

6. 

   ใช้รถยนต์ไฮบริด (รถยนต์ไฮบริด) หรือรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด หากคุณกำลังมองหารถใหม่ลองซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด รถประเภทนี้ขับเคลื่อนได้ทั้งน้ำมันเบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า รูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดเพิ่มขึ้นมาก การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะเหล่านี้ไม่เพียง แต่น้อยลงเท่านั้น แต่การใช้ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันได้อีกด้วย
   • หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาคุณจะได้รับการหักภาษี ณ ที่จ่ายของรัฐบาลกลางสำหรับปีที่คุณซื้อรถไฮบริด

7. 

   ดูแลรักษารถของคุณ หากคุณมีรถดูแลรถของคุณเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศเป็นประจำแก้ไขรอยรั่วทันทีที่ตรวจพบและเติมลมยางให้เต็ม

8. 

   ตรวจสอบระยะก๊าซของรถและพยายามปรับปรุง

9. 

   จำกัด เที่ยวบินของคุณ ไม่ว่าคุณจะบินเพื่อทำงานหรือพักผ่อนให้ลดจำนวนเที่ยวบินที่คุณจะเดินทาง เครื่องบินปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการปล่อยมลพิษอื่น ๆ จำนวนมากและจำนวนนี้ก็เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนเที่ยวบินทั่วโลก โปรดรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการ จำกัด การบิน
   • เที่ยวบินชั้นประหยัด. เมื่อมีคนมากกว่าหนึ่งคนอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากเครื่องบินนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน
   • การเลือกที่จะอยู่ที่เดิมในระยะทางไกลแทนที่จะกลับไปหลาย ๆ ครั้ง
   • เลือกรถไฟหรือรถบัสเมื่อเดินทางในพื้นที่
   • ใช้เทคโนโลยีการประชุมทางวิดีโอแทนการไปที่สถานที่ประชุมด้วยตนเอง

10. 

    ถ้าเป็นไปได้คุณควรอยู่ใกล้ที่ทำงานโรงเรียนหรือสถานที่อื่น ๆ ที่คุณไปเป็นประจำ หากไม่เป็นเช่นนั้นคุณควรอยู่ใกล้จุดจอดรถสาธารณะหรือในเลนจักรยาน พิจารณาปัจจัยการจราจรเมื่อเลือกที่จะอยู่ โฆษณา

วิธีที่ 4 จาก 7: เปลี่ยนพื้นที่บ้าน

1. 

   ติดตั้งสกายไลท์และโคมไฟกันแดด สกายไลท์และโคมไฟติดตั้งบนเพดานของคุณได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พื้นที่ในบ้านของคุณได้รับแสงแดดมากขึ้นวิธีนี้จะช่วยลดไฟฟ้าที่ใช้ในการให้แสงสว่าง โคมไฟบางชนิดสามารถเปลี่ยนแสงแดดเป็นไฟฟ้าได้ด้วย

2. 

   ใช้หลอดไฟเรืองแสงขนาดเล็ก (มักเรียกว่าไฟขนาดกะทัดรัด) หรือหลอด LED หลอดไฟขนาดกะทัดรัดและ LED มีราคาแพงกว่าหลอดอื่น ๆ แต่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟทั่วไป พวกเขายังใช้พลังงานเพียงหนึ่งในสี่เมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ
   • เปลี่ยนไฟที่คุณใช้บ่อยที่สุด

3. 

   ปิดผนึกช่องว่าง มองหาสถานที่ที่อากาศสามารถเข้าหรือออกจากบ้านของคุณได้ ช่องเปิดอาจอยู่รอบ ๆ ประตูหน้าต่างปล่องไฟไฟปิดภาคเรียนหรือที่อื่น ๆ บัดกรีช่องว่างเล็ก ๆ และใช้วัสดุฉนวนหรือโพลียูรีเทนโฟม (พียูโฟม) ที่มีรูขนาดใหญ่ขึ้น
   • แก้ไขช่องว่างในชั้นใต้ดินของคุณโดยการถอดฉนวนออกจากนั้นเชื่อมหรือใช้หินดินดานอุดรู เมื่อเปลี่ยนไอโซเลเตอร์ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้บีบอัดและควรครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดระหว่างคาน การปิดผนึกช่องว่างจะช่วยลดจำนวนแมลงและสัตว์ฟันแทะที่เข้ามาในบ้านของคุณ
   • เติมพื้นที่รอบ ๆ สวิตช์และปลั๊กโดยเฉพาะที่ผนังด้านนอก ถอดเบรกเกอร์ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าจากนั้นถอดตัวเครื่องและพ่นชั้นของโฟมโพลียูรีเทนลงในช่องว่างด้านนอกแผงขั้วต่อ
   • ตรวจสอบซีลประตูและหน้าต่างเพื่อให้แน่ใจว่ายึดแน่นดีแล้ว หากคุณรู้สึกว่าลมเย็นพัดเข้าบ้านในวันที่อากาศเย็นคุณอาจต้องปรับหรือเปลี่ยนที่นอน
   • ปากกาควันหรือธูปช่วยให้คุณเห็นว่ามีช่องเปิดอยู่ตรงไหนในบ้านของคุณ

4. 

   ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนห้องใต้หลังคาและผนังด้านนอกของคุณ ชั้นฉนวนกันความร้อนที่ดีเป็นวิธีที่ค่อนข้างประหยัดในการปรับปรุงความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการใช้พลังงานในบ้านของคุณ

5. 

   ตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำ หากน้ำประปาของคุณรั่วอยู่ตลอดให้แก้ไขก๊อกน้ำทันที ในกรณีที่คุณไม่สามารถแก้ไขได้ในทันทีให้วางกระถางเพื่อกันรอยรั่วและใช้น้ำเพื่อจุดประสงค์อื่นเช่นรดน้ำต้นไม้ในสวนของคุณ
   • ในการทดสอบโถสุขภัณฑ์คุณสามารถหยดสีย้อมสองสามหยดลงในถังด้านบนโดยไม่ต้องใส่ลงในโถสุขภัณฑ์โดยตรง รอประมาณ 10 นาทีและอย่าสาดน้ำ หากคุณเห็นสีกระจายไปที่โถสุขภัณฑ์คุณอาจต้องซ่อมแซมโถสุขภัณฑ์

6. 

   การติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งหน้าต่างช่วยเพิ่มการประหยัดพลังงาน เลือกใช้ผ้าม่านหรือผ้าม่านเพื่อให้บ้านของคุณเย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว ตัวอย่างเช่นผ้าม่านหนาในสภาพอากาศหนาวเย็นจะทำให้อากาศภายในอาคารอบอุ่นในเวลากลางคืน
   • หากคุณอาศัยอยู่ในสภาพอากาศร้อนเช่นทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาให้ลองย้อมสีหน้าต่างหรือใช้สารเคลือบสะท้อนแสง วิธีนี้จะช่วยระบายอากาศร้อนออกจากบ้าน พูดคุยกับ บริษัท รับเหมาก่อสร้างในพื้นที่เพื่อค้นหาว่าอะไรเหมาะกับสถานการณ์ของคุณ การย้อมหน้าต่างที่โดนแสงแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้สีของวัสดุซีดจางลงอย่างรวดเร็ว

7. 

   ปลูกต้นไม้คุ้มครองเพื่อปกป้องบ้านจากผลกระทบของลมและแสงแดด ต้นไม้ผลัดใบจะให้ร่มเงาในฤดูร้อนและปล่อยให้แสงแดดอันอบอุ่นสาดเข้ามาที่บ้านของคุณในช่วงฤดูหนาว ต้นไม้ที่เขียวชอุ่มตลอดปีจะสร้างกำแพงกั้นลม
   • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพิจารณาการเติบโตของพืชของคุณและปลูกพืชให้ห่างจากบ้านมากพอเพื่อที่ระบบรากจะไม่รบกวนรากฐาน

8. 

   รักษาคุณภาพของเครื่องใช้ในบ้านของคุณและเลือกรุ่นที่ประหยัดพลังงานเมื่อพิจารณาซื้อสินค้าใหม่
   • ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์ตู้เย็นปีละครั้ง
   • ทำความสะอาดช่องระบายอากาศของเครื่องอบผ้าปีละครั้ง ทำความสะอาดตัวกรองผ้าสำลีทุกครั้งที่คุณใช้เครื่องเป่า

9. 

   ติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบประหยัดน้ำ ห้องสุขาแบบประหยัดน้ำจะช่วยประหยัดน้ำได้มากในแต่ละปีช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดค่าน้ำ
   • คุณสามารถลองวางขวดน้ำในถังชักโครก ขวดน้ำจะครอบครองส่วนหนึ่งของปริมาตรในถังเก็บน้ำประหยัดปริมาณน้ำตามปริมาตรนั้นในการล้างแต่ละครั้งและตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องน้ำทำงานได้ตามปกติ (อย่าใช้อิฐแทนขวดน้ำเพราะอิฐอาจแตกได้)
   • ลองลดระดับน้ำในถังชักโครก ห้องสุขาหลายห้องมีกลไกควบคุมเพื่อลดการลอย - วาล์วที่เติมน้ำในถัง

10. 

    ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของคุณ แผงนี้แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายของพวกเขาก็ลดลงเช่นกัน (ในสหรัฐอเมริกาการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จะมีราคาประมาณ 10,000 ดอลลาร์) ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสามารถลดลงได้ถึง 20% เมื่อใช้แผงโซลาร์เซลล์
    • โปรดทราบว่ายังคงมีความกังวลมากมายเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมนี้จะผลิตสารเคมีอันตรายและ จำกัด การรีไซเคิลและอื่น ๆ อีกมากมาย

11. 

    เลือกบ้านหลังเล็กที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของครอบครัวคุณและรองรับเพียงพอ (คุณควรพิจารณาลดเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นให้น้อยที่สุด) คุณจะประหยัดเงินและทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่จำเป็นในการสร้างและบำรุงรักษาที่อยู่อาศัยของคุณในขณะที่ลดต้นทุนการทำความร้อนและการทำความเย็น
    • หากคุณมีบ้านที่ใหญ่กว่าที่คุณต้องการให้พิจารณาอยู่กับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการเช่า
    โฆษณา

วิธีที่ 5 จาก 7: การเปลี่ยนสวน

1. 

   สวน. สร้างสวนด้วยผักและ / หรือสมุนไพร
   • ลองใช้เทคนิคทางเลือกเหล่านี้เพื่อไม่ให้สวนของคุณต้องใส่ปุ๋ยหรือให้น้ำมากเกินไป ตัวอย่างเช่นการคลุมดินบนดินในสวนจะกักเก็บน้ำและช่วยให้ดินชุ่มชื้น
   • ปลูกผลไม้หรือพืชผักที่คุณชื่นชอบเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องไปซื้อผักที่ร้าน
   • ใช้ถังน้ำหรือภาชนะอื่นสำหรับน้ำฝน ใช้น้ำนี้รดน้ำต้นไม้ในสวนของคุณ

2. 

   ดูแลสวนของคุณให้เป็นมิตรกับพืชและสัตว์ป่า ชีวิตสมัยใหม่และการพัฒนาได้ละเมิดสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสัตว์ป่า ทำตามขั้นตอนไม่กี่ขั้นตอนเพื่อทำให้สวนของคุณเป็นมิตรกับสัตว์ป่ามากขึ้น
   • ปลูกพืชหลากหลายชนิด สิ่งมีชีวิตมากมายจะมาเยี่ยมชมสวนของคุณหากคุณอนุญาตให้เยี่ยมชม เมื่อคุณปลูกพืชหลากหลายชนิดคุณจะดึงดูดสัตว์หลากหลายชนิด
   • สร้างบ่อกบในสวนหลังบ้านของคุณ ประชากรกบกำลังลดลงเนื่องจากพื้นที่วางไข่ของพวกมันหายไป กบสามารถมาที่บ้านของคุณเพื่อผสมพันธุ์ได้หากคุณสร้างที่อยู่อาศัยให้พวกมันในสวนหลังบ้านของคุณ

3. 

   ลดพื้นที่หญ้า. พื้นที่ปลูกสนามหญ้าคุณจะต้องทำความสะอาดด้วยเครื่องตัดหญ้าเครื่องตัดหญ้ารวมถึงเครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้พลังงานปิโตรเลียมหรือไฟฟ้า แปลงพื้นที่ปลูกหญ้าบางส่วนเป็นสวนหรือต้นไม้พื้นเมือง สิ่งนี้จะดึงดูดสัตว์ป่าด้วย

4. 

   หลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าแมลงสารกำจัดวัชพืชและปุ๋ยเคมีเทียมอื่น ๆ สารกำจัดศัตรูพืชฆ่านกและสัตว์อื่น ๆ หลายร้อยตัวในแต่ละปี หากสวนของคุณมีหญ้าที่ไม่ต้องการให้ถอนออกหรือขุดเองตัดหญ้าหรือวางสนามหญ้าเทียมไว้ด้านบนของต้นไม้
   • เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรถาวรการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสานการเพาะเลี้ยงและเทคนิคอื่น ๆ เพื่อลดหรือขจัดความจำเป็นในการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ย
   • หากใช้ปุ๋ยเคมีให้ใช้ในปริมาณที่ต้องการเท่านั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปุ๋ยส่วนเกินจะไม่ไหลลงท่อระบายน้ำหรือแม่น้ำ

5. 

   ปลูกต้นไม้. ปลูกต้นไม้ในสวน. ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนและยังช่วยปรับปรุงแหล่งน้ำในท้องถิ่นและเสริมสร้างดิน
   • ต้นไม้ผลัดใบหากปลูกไว้ข้างบ้านอย่างเหมาะสมจะทำให้บ้านของคุณอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน
   • หากคุณปลูกไม้ผลประโยชน์เพิ่มเติมของการรับประทานผลไม้ที่ปลูกเองในบ้านแทนที่จะซื้อที่ร้าน

6. 

   ปุ๋ยหมักปุ๋ยหมัก. เลือกพื้นที่ในสวนของคุณเพื่อรวบรวมของเสียในสวนเปลือกผลไม้และของเหลือทิ้งทั้งหมด มองหาไส้เดือนจำนวนมากที่สามารถจัดการของเสียเหล่านี้ได้สร้างชั้นฮิวมัสที่อุดมด้วยสารอาหารสำหรับการออกแบบภูมิทัศน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ทำปุ๋ยหมักอยู่ห่างจากแหล่งน้ำ

7. 

   ใช้คราดแทนเครื่องเป่าใบไม้ หยุดใช้เครื่องเป่าใบไม้ที่มีเสียงดังที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินหรือพลังงานไฟฟ้า แทนที่จะใช้คราดเพื่อกำจัดใบไม้หรือเศษขยะออกจากสวนของคุณ
   • ในทำนองเดียวกันให้ใช้ไม้กวาดแทนการแตะเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ปูกระเบื้อง
   โฆษณา

วิธีที่ 6 จาก 7: ใช้ซ้ำ

1. 

   ซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของใช้แล้ว. ไปที่ร้านขายของมือสองและสินค้าฝากขายเพื่อค้นหาเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์มือสอง

2. 

   บริจาคหรือแบ่งปันของใช้ในบ้านที่ใช้งานได้ แทนที่จะทิ้งสิ่งของคุณอาจพิจารณามอบให้ บริจาคเสื้อผ้าและของใช้ในบ้านที่ยังใช้งานได้เพื่อการกุศล หลายองค์กรจะส่งรถบรรทุกมารับสินค้าจากคุณ
   • Craigslist.org ในสหรัฐอเมริกาเป็นเว็บไซต์ออนไลน์ที่สะดวกสบายซึ่งคุณสามารถซื้อขายและแจกของในพื้นที่ของคุณ

3. 

   รีไซเคิลอัพเกรด เปลี่ยนถังขยะที่ไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นสิ่งของที่น่าสนใจและน่ารักหรือใหม่ไม่ซ้ำใคร ออกแบบเครื่องประดับของแต่งบ้านและเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวของคุณด้วยสิ่งของที่คุณมีอยู่แล้ว ดูบทความวิกิฮาวเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลการอัปเกรดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

4. 

   ซื้อหรือเย็บกระเป๋าที่ใช้ซ้ำได้ นำถุงผ้ามาด้วยเมื่อซื้อของ ชุมชนหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาห้ามร้านค้าต่างๆใช้ถุงพลาสติก แต่แม้ว่าละแวกบ้านของคุณจะอนุญาตให้ใช้ถุงพลาสติก แต่คุณก็ควรเปลี่ยนไปใช้ถุงที่ใช้ซ้ำได้ โฆษณา

วิธีที่ 7 จาก 7: เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม

1. 

   ติดต่อหน่วยงานของรัฐ. โทรหรือส่งอีเมลไปยังสภาประชาชนหรือหน่วยงานท้องถิ่น แนะนำให้สนับสนุนกิจกรรมเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน

2. 

   เข้าร่วมการชุมนุม หลายเมืองในสหรัฐอเมริกาจัดการชุมนุมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีประสิทธิภาพเหตุการณ์ดังกล่าวต้องการคนจำนวนมาก เข้าร่วมการชุมนุมในพื้นที่ของคุณ การออกแบบป้ายนำการเดินขบวนเพื่อถ่ายทอดข้อความของคุณ
   • พาครอบครัวและเพื่อน ๆ มาร่วมงานกับคุณ

3. 

   เข้าร่วมองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม คุณสามารถเลือกองค์กรที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้านใดด้านหนึ่ง หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาคุณควรพิจารณาเป็นสมาชิกของกรีนพีซ, เซียร์ราคลับหรือกองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อม

4. 

   เขียนถึงกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ ใช้สื่อข่าวเน้นปัญหาสิ่งแวดล้อม เขียนจดหมายถึงห้องข่าวที่กล่าวถึงเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ สิ่งนี้สามารถจุดประกายการสนทนาในชุมชนของคุณเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ
   • อีกทางเลือกหนึ่งคือเสนอให้เขียนบทบรรณาธิการสำหรับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของคุณ

5. 

   มีส่วนร่วมในเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม โปรดเลือกองค์กรที่ทำงานเพื่อปัญหาสิ่งแวดล้อม บริจาคเงินให้กับองค์กรนี้ หลายองค์กรมีผลงานตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ คุณสามารถเลือกที่จะบริจาครายเดือนหรือรายปี
   • ในสหรัฐอเมริกาเงินบริจาคให้กับองค์กรการกุศลอาจหักออกจากจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี มีการจัดทำใบแจ้งหนี้เพื่อให้คุณสามารถหักภาษีจำนวนนี้ได้

6. 

   ทำงานอาสาสมัคร. ขับไล่, โฆษณาชวนเชื่อ, การศึกษา, ซ่อมจักรยาน, เปิดร้านกาแฟเพื่อสอนวิธีซ่อมแซมสิ่งของปลูกต้นไม้สังเกตจำนวนนกและสัตว์อื่น ๆ มีหลายวิธีที่คุณสามารถสร้างและพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นผ่านการเป็นอาสาสมัคร โฆษณา

คำแนะนำ

• อย่าซื้อสิ่งที่คุณไม่ต้องการ สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงินและช่วยให้บ้านไม่รกรุงรัง แต่ยังไม่ใช้ทรัพยากร (วัสดุพลังงานความพยายาม) ที่จำเป็นในการสร้างผลิตภัณฑ์นั้น คุณสามารถยืมและใช้รายการได้หรือไม่จำเป็นต้องใช้เลย?
• อย่าใช้ถุงโพลีเอทิลีน กระเป๋าเหล่านี้หาได้ง่าย แต่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปาล์ม! น้ำมันปาล์มสกัดจากน้ำมันปาล์มในอินโดนีเซียและแอฟริกาและเป็นสาเหตุสำคัญของการตัดไม้ทำลายป่าเขตร้อน ตรวจสอบส่วนประกอบอาหารและเครื่องสำอางของคุณ หลีกเลี่ยงผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่เช่น PepsiCo และ Nestle บริษัท สนับสนุนเช่น Gap และ Coca Cola เนื่องจากไม่ได้ใช้น้ำมันปาล์ม
• คุณยังสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ด้วยการปกป้องผึ้งและแมลงอื่น ๆ ที่สร้างประโยชน์ในเชิงบวกให้กับโลกของเรา
• พิจารณาอาหารมังสวิรัติเต็มรูปแบบ ผลเสียของการรับประทานอาหารมังสวิรัติต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมจะน้อยมาก
• กักเก็บน้ำฝนและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่นทำสวนทำความสะอาดหรืออาบน้ำนก)