เนื้อหา

• ขั้นตอน
• เคล็ดลับ
• คำเตือน

มันไม่สำคัญ? ลองดูว่าคุณคิดว่าความรอดของคุณในพระคริสต์ขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างความเชื่อเพียงอย่างเดียวกับความเชื่อใจหรือไม่

ขั้นตอน

1. 1 “ผู้ที่เชื่อและสารภาพด้วยปากของตนเองจะรอด“แต่คำว่าศรัทธาในกรณีนี้มีความหมายมากกว่าแค่ศรัทธา คำนี้เป็นคำที่ใกล้เคียงที่สุดที่ผู้แปลพบจากคำภาษากรีก pisteuo ข้อแตกต่างคือคำภาษากรีกมีแนวคิดเช่น ไว้วางใจและพึ่งพา... (โรม 10)
2. 2 ไตร่ตรองเรื่องราวต่อไปนี้ ชายคนหนึ่งดึงเชือกแน่นๆ ข้ามน้ำตกไนแองการาและออกแถลงการณ์ว่าเขาจะเอาหินลากรถสาลี่ข้ามน้ำตก วันนั้นมาถึงและฝูงชนจำนวนมากตื่นเต้นกับเหตุการณ์รวมตัวกัน ชายคนนั้นออกมาพร้อมกับรถสาลี่ใหม่ของเขาและถามคำถามกับฝูงชนว่า “มีกี่คนที่เชื่อว่าผมเดินเชือกไปมาได้? “ฝูงชนโห่ร้องด้วยความยินยอม:“ เราทุกคนเชื่อว่าคุณทำได้” ชายผู้สงบเสงี่ยมเดินขึ้นไปบนเชือกที่นั่นและกลับมา ฝูงชนต่างโห่ร้องปรบมือ จากนั้นชายคนนั้นก็พูดว่า: “มีกี่คนที่เชื่อว่าฉันสามารถขนคนไปมาด้วยรถเข็นล้อเดียวได้? “ฝูงชนชื่นชมยินดีมากขึ้นและสนับสนุนข้อเสนอของเขาด้วยเสียงเชียร์ ชายคนนั้นเองก็พร้อมสำหรับเรื่องนี้และพูดว่า: "ถ้าคุณเชื่อยกมือขึ้น" หลายคนยกมือขึ้น และฝูงชนก็ทักทายข้อเสนอของเขาอีกครั้งด้วยเสียงเชียร์ดังๆ จากนั้นเขาก็เชิญอาสาสมัครออกมาจากบรรดาผู้ที่เชื่อว่าเขาสามารถพาเขาข้ามน้ำตกและนำเขากลับมายังโลกได้อย่างปลอดภัย ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีผู้สมัคร แม้ว่าหลายคนเชื่อว่าเขาทำได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากขึ้นรถของเขา ทุกคนที่ยกมือเพื่อแสดงศรัทธาในตัวเขากล่าวว่า "คุณมันบ้า ฉันจะไม่เข้าไปในรถคันนี้" หลายคนบอกว่าพวกเขาเชื่อในพระเยซูคริสต์ แต่มีน้อยคนที่พร้อมจะกล้าขึ้นรถของพระองค์ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพระคริสต์ตรัสกับคุณว่า “เชื่อฉัน เชื่อฉัน. คุณพร้อมหรือยังที่จะยอมจำนนต่อฉัน ยอมมอบชีวิตของคุณภายใต้การควบคุมของฉัน "" หลายคนถูกเรียก แต่น้อยคนที่ได้รับเลือก "
3. 3 ตรวจสอบตัวเองกับสิ่งนี้: “เจ้าเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เดียว และเจ้าทำได้ดี ปีศาจทั้งสองเชื่อและตัวสั่น” (ยากอบ 2:19)
   • ข้อพระคัมภีร์ข้อนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าศรัทธาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับความรอด
     • หากซาตานและปิศาจของมันเชื่อและเข้าใจว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ซาตานได้นำพวกเขาขึ้นสวรรค์ไปหาพระเจ้าหรือไม่?
       • ไม่ ปีศาจไม่ได้ทำให้ชีวิตหรือการดำรงอยู่ของพวกเขาอยู่ภายใต้อำนาจและการควบคุมของพระองค์ และไม่สร้างความสัมพันธ์กับพระองค์ในฐานะผู้รับใช้
4. 4 ตรวจสอบการใช้คำนี้ในการประชุมใหญ่และการแปลพระคัมภีร์อื่นๆ ไม่ว่าความหมายของ "ความไว้วางใจและพึ่งพา" จะถูกถ่ายทอดไปทุกที่
5. 5ตรวจสอบคำแปลของคำภาษากรีก "pisteuo" โดย Symphony
6. 6 โปรดทราบว่าคำพ้องความหมายสำหรับความไว้วางใจคือ - ความเชื่อมั่น การพึ่งพา ศรัทธา และความเชื่อมั่น. มันไม่ใช่แค่ความเชื่อในการมีอยู่ของบางสิ่งบางอย่าง การเชื่อและวางใจในพระองค์สำหรับความรอดของคุณนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการเชื่อในการดำรงอยู่ของพระองค์เท่านั้น
7. 7 สำรวจว่าแนวคิดเรื่องความรอดถูกบิดเบือนอย่างไร ไม่ใช่แค่ศรัทธาเท่านั้นที่ช่วยชีวิต รักษาความไว้วางใจ การเชื่อฟัง การยึดมั่น และความอุตสาหะ เป็นความสามารถที่จะวางใจและพึ่งพาคนอื่นที่พระคริสต์มีในใจเมื่อพระองค์ตรัสว่าเราต้องเป็นเหมือนเด็กจึงจะเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้
8. 8 ทำตัวเป็นเด็กกับพ่อแม่ของคุณ เด็ก ๆ แสดงความมั่นใจในพ่อแม่ เข้าใจเรื่องการพึ่งพาอาศัยกัน ศรัทธาและพึ่งพาพวกเขา ราวกับจะพูดว่า: "เลี้ยงฉัน แต่งกายให้ฉัน และให้ทุกสิ่งที่ฉันต้องการ"
   • รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยตรัสกับสาวกและผู้ติดตามของพระองค์ สิ่งนี้ใช้ได้กับทุกคนที่พระเจ้าทรงเรียก ในช่วงครั้งสุดท้ายนี้ พระเจ้ากำลังเทพระวิญญาณของพระองค์ลงบนเนื้อหนังทั้งหมด และบุตรธิดาของพระองค์จะได้รับพร
9. 9 ติดตามพระคริสต์ผู้เลี้ยงที่ดีของเรา แกะมีพฤติกรรมอย่างไรกับคนเลี้ยงแกะ? พวกเขาติดตามเขา พึ่งพาเขา ไว้วางใจเขา และพึ่งพาเขา รูปภาพควรมีความชัดเจนอยู่แล้ว ศรัทธาเพียงอย่างเดียวนั้นไร้ค่า เพราะแม้แต่ปีศาจในนรกก็ยังเชื่อว่าพระคริสต์ทรงสามารถช่วยได้และพระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อ่าน เจมส์ 2: 19.br>
10. 10 พิจารณาสิ่งต่อไปนี้: ประตูของพระเจ้าแคบและน้อยคนที่จะเข้าไป ผู้เชื่อไม่อาจเข้าไปได้ แต่ผู้ที่วางใจและพึ่งพาพระองค์จะเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ผ่านประตูแคบเหล่านี้
    • นี่คือเหตุผลที่คริสตจักรส่วนใหญ่ต้องได้รับความรอด “ นี่หมายความว่าอะไรอีก” - หลายคนจะถามเมื่ออ่านบทความนี้ บางทีคุณกำลังคิดเกี่ยวกับมัน แต่: “ใช่ ส่วนใหญ่แล้ว คริสตจักรคือคนที่นั่งอยู่บนม้านั่งในโบสถ์และไม่รู้ว่าจะวางใจพระเจ้าและพึ่งพาพระองค์ได้อย่างไร"- และนี่คือแหล่งที่แท้จริงของความรอดและการเป็นสานุศิษย์ในพระเยซูคริสต์ การวางใจ การพึ่งพา และการเชื่อฟังเป็นมากกว่าแค่การเชื่อ
    • คุณอาจเชื่อว่าคนๆ หนึ่งสามารถเดินบนเชือกข้ามน้ำตกได้ แต่คุณต้องการนั่งรถสาลี่ของเขาและข้ามน้ำตกไปกับเขา (นั่นคือ ไว้วางใจเขาอย่างเต็มที่ด้วยชีวิตของคุณ) หรือไม่? ไม่มีทางในโลก ทำไม? มันคือความกลัวที่จะปล่อยชีวิตของคุณและไปอยู่ในมือของคนอื่น
11. 11 คิดเสียว่าจะต้องเสียอะไรกับการปฏิเสธ เพราะความจริงคือมันจะผ่านพ้นไป "กับคนอื่น"แต่ไม่ใช่กับคุณ คุณเห็นความแตกต่างหรือไม่? นี่คือวิธีที่เราเชื่อในพระคริสต์
    • ดังนั้นจงวางใจในพระองค์ พึ่งพาพระองค์ อย่ากลัวที่จะพึ่งพาพระองค์และมอบชีวิตของคุณไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์! ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ถ้าคุณยังไม่ได้มอบชีวิตทั้งชีวิตให้กับพระคริสต์ จงทำตอนนี้: “สอนให้ฉันเชื่อใจคุณ!”และสดุดี 73:28, 115: 10-11, 91: 1-16 ด้วย ให้ความไว้วางใจในพระเจ้ากลายเป็นกระบวนการที่คงที่ในชีวิตของคุณ

เคล็ดลับ

• ความไว้วางใจไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เป็นวิถีชีวิต วันแล้ววันเล่า นาทีต่อนาที
• เชื่อฟังพระองค์เป็นพระเจ้าของคุณ โชคชะตาสารภาพทุกวันและรับพลังของพระเจ้า
  • พระเยซูตรัสว่า "จงแบกกางเขนของตนแบกตามเรามา"
• รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระคริสต์ทรงบอกสาวกและผู้ติดตามของพระองค์ให้รอการเสด็จมาของพระเจ้าและรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ นี่เป็นพรสำหรับทุกคนที่พระเจ้าทรงเรียก
  
  "และเราจะส่งคำสัญญาของพระบิดาของเรามาให้คุณ แต่คุณยังคงอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มจนกว่าคุณจะได้รับพลังจากเบื้องบน ... "

คำเตือน

• บางครั้งมีข้อสงสัยว่าสามารถวางใจได้มาก ประสบกับความหิวโหยและความกระหายในความบริสุทธิ์ของพระเจ้า จากนั้นอธิษฐาน: "ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยผู้ที่ไม่เชื่อของข้าพระองค์" บางคนต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะมั่นใจในเรื่องนี้ ศรัทธาเป็นของขวัญจากพระเจ้า แต่ควรเข้าใจว่า "พระคุณของพระเจ้าเพียงพอสำหรับทุกคน" ไม่ อย่ายอมแพ้และวางใจในพระเจ้าต่อไป พระองค์จะประทานคำตอบและสันติสุขแก่คุณ และแสดงวิธีที่ถูกต้องในการรับใช้พระเจ้า แม้ในยามอ่อนแอ เพราะคุณสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้จากการเผชิญปัญหาและข้อสงสัย
• ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถวางใจในพระคริสต์ได้ คุณก็อาจจะไม่มีวันได้พบกับพระองค์จริงๆ วางใจในพระองค์ พึ่งพาพระองค์ และเดินในทางแคบอย่างเชื่อฟัง